Thursday, April 16, 2020

5.พอกด้วยน้ำปั่นใบตำลึง


5.พอกด้วยน้ำปั่นใบตำลึง

ใบตำลึงหาได้ไม่ยากตามรั้วบ้านของเราท่าน สามารถนำมาทำเป็นยาสมุนไพรพอกหน้าทำให้สิวและรอยด่างดำอันเกิดจากสิวจางหายหายไปได้

การเตรียมอุปกรณ์น้ำปั่นใบตำลึง
1.เครื่องปั่นผลไม้
2.ใบตำลึงสด 1 กำมือ
3.ดินสอพอง
4.น้ำอุ่น

วิธีปรุงน้ำปั่นใบตำลึง
1.ล้างใบตำลึงให้สะอาดแล้วใส่ลงไปในเครื่องปั่น
2.เติมน้ำอุ่นสัก1 ถ้วยเล็ก
3.กดเครื่องปั่นให้ทำงาน
4.จะได้น้ำสีเขียวๆของใบตำลึง
5.ใช้ผ้าขาวบางกรองเอาเฉพาะน้ำสีเขียวๆ
6.ใส่น้ำใบตำลึงลงในถ้วยเล็กๆแล้วใส่ดินสอพองลงไปแล้วใช้ช้อนกดและคนให้ดินสอพองละอายกลายเป็นครีมพอกหน้า
7. ใช้สำลีชุบน้ำยาใบตำลึงพอกจนทั่วใบหน้า(ยกเว้นดวงตา) ทิ้งไว้ประมาณ 20-25 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8. ทำซ้ำๆกันหลายวัน

หมายเหตุ สำหรับน้ำใบตำลึงปั่นที่เหลือสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อใช้ในคราวต่อไปได้

4.พอกด้วยน้ำปั่นจากผลกีวี


4.พอกด้วยน้ำปั่นจากผลกีวี

การใช้ผลไม้ตามฤดูกาลพอกหน้าเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ ทำให้ใบหน้าของท่านสวยงามอยู่เสมอได้ การพอกหน้าด้วยผลไม้ประจำฤดูกาลจะช่วยบำรุงผิว
ผลไม้ที่อยู่ในบัญชีรายการของผลไม้ตามฤดูกาลที่ใช้บำรุงผิวได้อย่างดีอย่างหนึ่งคือผลกีวี (Kiwi) เพราะเป็นผลไม้มากด้วยวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินอี และสารอาหารอื่นๆ
เราสามารถใช้ผลกีวีเป็นสมุนไพรประเภทยากลางบ้านสำหรับบำบัดรักษาผิวหนังได้หลากหลายชนิด ในที่นี้จะได้นำเสนอวิธีการใช้น้ำผลกีวีมาทำเป็นหน้ากากพอกหน้าในการบำบัดรักษาสิวโดยเฉพาะ หน้ากากพอกหน้าด้วยผลกีวีนี้จะมีประสิทธิพลเป็นอย่างมากหากท่านใช้พอกอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลา 2-3 วัน

ขั้นตอนของการตระเตรียมสมุนไพรสูตรรักษาสิวด้วยการรพอกด้วยหน้ากากน้ำปั่นผลกีวีมีดังต่อไปนี้
1. ใช้น้ำปั่นเนื้อสดของผลกีวี (Kiwi) จำนวน 2 ช้อนโต๊ะใส่ลงในถ้วยใบเล็กๆ
2. ใส่น้ำมันโจโจ้บา (jojoba oil) 1 ช้อนชาผสมเข้าไปแล้วคนให้เข้ากัน
3. คนจนสมุนไพรข้นพร้อมที่จะใช้พอกหน้าได้
วิธีพอกหน้าด้วยการใช้น้ำปั่นจากผลกีวี
1.ในตอนกลางคืนก่อนเข้านอนให้ทำการล้างหน้าของคุณให้สะอาดจากเครื่องสำอางต่างๆด้วยน้ำอุ่นแล้วเช็ดหน้าให้แห้ง
2.ใช้นิ้วมือ 4 นิ้ว ของคุณจุ่มยาสมุนไพรกีวีที่เตรียมไว้แล้วมาทาแล้วคลึงเบาๆเป็นรูปวงกลมจนทั่วใบหน้า (เว้นเฉพาะส่วนที่เป็นดวงตา)
3.ให้ทิ้งหน้ากากพอกหน้านี้ไว้เป็นเวลา 30 นาที
4.แล้วใช้สำลีชุบน้ำอุ่นค่อยๆทำความสะอาดใบหน้าแล้วทาด้วยสารสกัดจากดอกกุหลาบ( rose water)

ให้ใช้สมุนไพรสูตรนี้พอกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 2-3 วันก็จะเกิดผลดี ซึ่งจะช่วยขจัดสิว และรอยด่างดำที่เกิดจากสิวได้ และถ้าจะให้ดีควรที่จะใช้สมุนไพรสูตรพอกด้วยผลกีวีนี้ในตอนกลางคืนก่อนที่คุณจะเข้านอน ก็จะเกิดผลในการบำบัดรักษาสิวได้ดีมาก จะช่วยทำความสะอาดรูขุมขนของผิวหนังและขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น สารพิษ แบกทีเรีย และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไปจากใบหน้าของคุณ และจะช่วยบำรุงผิวหน้าของคุณให้เปล่งปลั่งเต่งตึง เหมือนสาวแรกรุ่น ไม่เกิดอาการการเหี่ยวย่น มีน้ำมีนวลชวนมองยิ่งนักแล

3.ทาและนวดคลึงด้วยน้ำมันมะพร้าว


3.ทาและนวดคลึงด้วยน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวมากไปด้วยวิตามินอี  กรดลอริก (lauric acid) กรดคาไพรลิก (caprylic acid)       และกรดคาพริก(capric) เราจึงสามารถนำมาทำเป็นครีมช่วยขจัดริ้วรอยดำด่างอันเกิดจากสิวได้  นอกจากนั้นแล้วน้ำมันมะพร้าวก็ยังสามารถใช้ป้องกันการก่อตัวเกิดแผลเป็นจากการเป็นสิวได้ วิธีทำให้แผลเป็นที่เกิดจากสิวเลือนหายไปได้นั้น ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวนวดคลึงตรงบริเวณที่เป็นสิวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง แต่หากจะให้มีประสิทธิผลที่สุดก็ควรทาและนวดคลึงวันละ 2-4 ครั้ง น้ำมันมะพร้าวที่นิยมนำมาใช้เพื่อการนี้คือน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

2.ทาด้วยน้ำมันมะกอก


2.ทาด้วยน้ำมันมะกอก

สมุนไพรที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อขจัดแผลริ้วรอยจากสิว คือ น้ำมันมะกอก ซึ่งมีคุณสมบัติในการบำบัดรักษาตามธรรมชาติ

วิธีใช้สมุนไพรสูตรนี้ก็ทำได้โดยใช้น้ำมันมะกอกมาทาตรงริ้วรอยดำจากการเป็นสิววันละหลายๆครั้ง

1.พอกด้วยยาเม็ดแอสไพรินบดเป็นผง


1.พอกด้วยยาเม็ดแอสไพรินบดเป็นผง

แอสไพรินมีคุณสมบัติในการป้องกันการฟกช้ำและมีกรดซาลิไซลิก(salicylic acid) ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการบำบัดรักษาโรคสิวได้

วิธีการ คือ นำแอสไพรินมาทำบดเป็นผงแล้วใช้พอกหน้า ซึ่งก็จะช่วยทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่มและลดริ้วรอยหมองคล้ำที่เกิดจากการเป็นสิว

กรรมวิธี ทำได้โดยการบดยาแอสไพริน 4-5 เม็ดให้ละเอียดเป็นผง จากนั้นใส่โยเกิร์ต(นมเปรี้ยว)ผสมลงไป หรือว่าจะใช้เจลว่านหางจระเข้ผสมเข้าไปก็ได้

เสร็จแล้วก็นำมาพอกหน้าทิ้งไว้นาน 15 นาที จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดหน้าให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมหรือโลชั่นสำหรับทาให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง (Moisturizer)

สารบัญ


1. พอกด้วยยาเม็ดแอสไพรินบดเป็นผง หน้า 8
2. ทาด้วยน้ำมันมะกอก หน้า 8
3. ทาและนวดคลึงด้วยน้ำมันมะพร้าว หน้า 8
4. พอกด้วยน้ำปั่นจากผลกีวี หน้า 9
5. พอกด้วยน้ำปั่นใบตำลึง หน้า 10
6. น้ำผึ่งสมมะนาวและผงวิเศษ  หน้า 11
7. ทาด้วยกระเทียมดิบ หน้า 12
8. ทาด้วยก้อนน้ำแข็ง หน้า 12      
9. ทาด้วยแป้งข้าวโพด หน้า 12
10. เบกกิ้งโซดา หน้า 13
11. น้ำต้มบีทรูท หน้า 13
12. โรคกุหลาบแดง หน้า 14
13. รากหญ้าเบอร์ด็อก หน้า 15
14. น้ำมันสกัดจากเมล็ดโรสฮิบออยส์ หน้า 15
15. ดื่มน้ำมังคุด หน้า 15
16. รับประทานใบสะเดาสด หน้า 16
17. ทาด้วยโทนเนอร์น้ำปั่นแตงโม หน้า 16
18. ทาด้วยน้ำผึ้งแท้ หน้า 17
19. น้ำส้มสายชูหมักจากผลแอปเปิ้ล หน้า 17         
20. วิธีขจัดริ้วรอยดำที่เกิดจากสิว หน้า 17
21. ทาด้วยน้ำมันโจโจ้บา หน้า 18
22. น้ำปั่นหัวไชเท้าผสมรำข้าว หน้า 19
23. ทาด้วยน้ำมันซีบัคโธรน หน้า 20
24. พอกด้วยชาเขียว หน้า 20
25. ใช้ถุงเปียกของชาเขียวทาหน้า หน้า 21 
26. ผงเปลือกส้มบด หน้า 21        
27. สมุนไพรรักษาสิวประเภทต่างๆ หน้า 22
28. น้ำหมักชีวภาพมะเฟือง หน้า 24
29. น้ำฝาถังน้ำหมักเอนไซม์ผลไม้ หน้า 25
30. สารสกัดจากรากชะเอม หน้า 26
31. น้ำหมักต้นเซนต์จอห์นเวิร์ต หน้า 26
32. น้ำคั้นหัวหอมใหญ่ผสมน้ำส้มสายชูหมักด้วยแอปเปิ้ล หน้า 26
33. พอกด้วยน้ำผึ้งผสมอัลมอนด์ป่น หน้า 27
34. ผงขมิ้นผสมน้ำนม หน้า 27
35. ผสมข้าวโอ๊ตและน้ำนม หน้า 27
36. ใบโฮม์ หน้า 27
37. พอกด้วยผลมะละกอดิบบด หน้า 28
38. ทาพ่นด้วยใบสะเดาต้ม หน้า 28
39. ทาด้วยน้ำมันโจโจบา หน้า 29
40. ดื่มน้ำชารากต้นเบอร์ด็อก หน้า 29      
41. ดื่มน้ำปั่นหัวแครอท หน้า 29              
42. พอกด้วยหัวแครอทต้ม  หน้า 30
43. ทิงเจอร์สมุนไพร หน้า 30
44. พอกด้วยหน้ากากเนื้อแตงโมและดื่มน้ำปั่นแตงโม หน้า 31
45. พอกด้วยมะละกอสุก หน้า 32
46. สารสกัดฟักเขียว หน้า 33
47. พอกด้วยหน้ากากผลอะโวคาโด หน้า 34
48. พอกด้วยหน้ากากสับปะรด หน้า 36
49. รับประทานผลพีช หน้า 36
50. น้ำและเนื้อลูกแพร์ หน้า 37
51. ทาด้วยน้ำคั้นจากผลแก้วมังกร หน้า 37
52. ทาด้วยน้ำมันมะพร้าว หน้า 38
53. ทาด้วยน้ำมันมะรุม หน้า 38
54. พอกด้วยหน้ากากเนื้อกล้วยหอม หน้า 39
55. ทาถูด้วยเปลือกในของกล้วยหอม หน้า 40
56. สารสกัดเมล็ดเกรปฟรุต หน้า 40
57. รับประทานผลแอปเปิ้ลและคลุมหน้าด้วยเนื้อผลแอปเปิ้ล หน้า 41
58. ทาเนื้อด้วยผลมะระ หน้า 42
59. รับประทานผฃมะเฟือง หน้า 43
60. น้ำมันเมล็ดดอกคาเมลเลีย หน้า 44
61. รับประทานอาหารที่มีสมดุลของสารอาหาร หน้า 44
62. ดื่มน้ำให้มากๆ หน้า 44
63. ลดความเครียดด้วยการออกกำลัง หน้า 45
64. น้ำเอนไซม์ผลมะเฟือง หน้า 45
65. น้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ หน้า 46
66. สารสกัดจากรากกุกกุล หน้า 47
67. สารสกัดตังกุย หน้า 47
68. สารสกัดวิเท็กซ์ หน้า 47
69. สารสกัดแบร์เบอร์รี่ หน้า 48
70. ทิงเจอร์สารสกัดดอกดาวเรืองฝรั่ง หน้า 48
71. น้ำคั้นหัวแดนดิไลอ้อนรูท หน้า 49
72. ทาและดื่มวุ้นว่านทหางจระเข้ หน้า 49
73. น้ำมันทีทรี หน้า 50
74. ไบไธม์ หน้า 50
75. ทาด้วยกระเทียม หน้า 51
76. น้ำต้มแคโมมีล หน้า 51
77. น้ำคั้นใบริบเวิร์ท หน้า 51
78. วุ้นว่านหางจระเข้ หน้า 51
79. สารสกัดจากผล Saw palmetto หน้า 52
80. น้ำมัน Tea Tree Oil หน้า 52
81. น้ำมันดอกกุหลาบ หน้า 53
82 .น้ำส้มสายชูหมักผลแอปเปิ้ล หน้า 53
83. พอกด้วยผลแอพริคอ็ทและแตงกวาบด หน้า 54
84. พอกด้วยหน้ากากครีมรสเปรี้ยว หน้า 54
85. น้ำมะนาว หน้า 55
86. สูตรพระฤษีผู้วิเศษแห่งอินเดีย หน้า 55
87. สารสกัดพิคนอจินอล หน้า 66
88. น้ำส้มสายชูหมักผลแอปเปิ้ลสด หน้า 57
89. เบบี้ออยส์และน้ำมะนาว หน้า 58
90. น้ำมะเขือเทศและน้ำมะนาว หน้า 58
91. สารสกัดจากเมล็ดองุ่นและราสป์เบอร์รี่ หน้า 59
92. ใบบัวบก หน้า 59
93. สารสกัดจากเปลือกสน หน้า 60
94. ขมิ้นชัน น้ำกระทิ น้ำดอกกุหลาบ และน้ำมะนาว หน้า 60
95. ทาด้วยไข่ดิบ หน้า 61
96. น้ำหอมหัวใหญ่ หน้า 61
97. น้ำส้มสายชูผสมน้ำ หน้า 62
97. น้ำมะนาวสด หน้า 62
99. มะขามเปียกผสมน้ำผึ้งแท้ หน้า 62
100. หัวผักกาดผสมรำข้าว หน้า 63
101 ข้าวโอ๊ตกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์ หน้า 63
102 กินหัวแครอท
103 ทาด้วยแว่นแตงกวา หน้า 63
104. น้ำเมือกว่านหางจระเข้ หน้า 64
105 หัวผักกาดขาว หน้า 64

คำนำ


คำนำ

สิวฝ้าและกระเป็นสิ่งที่ทุกคนเกิดความกังวลมากที่สุดอย่างหนึ่งเมื่อเกิดขึ้นบนใบหน้า แพทย์แผนโบราณทั้งในประเทศทางตะวันตกและในประเทศทางตะวันออก ต่างก็ได้แนะนำสูตรสมุนไพรต่างๆเพื่อนำมาใช้บำบัดรักษา ที่นำมาเสนอนี้เป็นสูตรในการบำบัดรักษาสิวฝ้ากระอย่างน้อยกว่า 105 สูตรด้วยกัน แต่ละสูตรสามารถปรุงได้จากสิ่งของในครัวเรือน จากเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน จากผลไม้หรือผืชตามรั้วบ้านของเรา ซึ่งบางทีเราเองอาจคิดไม่ถึงว่ามันจะสามารถนำมาใช้หรือเป็นสิ่งประสมที่สามารถบำบัดรักษาโรคสิวฝ้ากระได้ ซึ่งก็สมารถศึกษาและปฏิบัติตามได้โดยอาศัย” สูตรสำเร็จในการดูแลใบหน้าแบบธรรมชาติ” ที่จะได้นำเสนอต่อไปนี้